พระพุทธไสยาสน์ ทำด้วยหินอ่อนขาวจากเมืองคาร์ราร่า ประเทศอิตาลี มีความยาว 20 เมตร โดยใช้หินอ่อนจำนวน 43 ก้อน น้ำหนักก้อนละประมาณ 15–30 ตัน นำเข้ามาแกะสลักที่วัดป่าภูก้อนแล้วยกขึ้นเรียงบนฐานซ้อนกัน 3 ชั้น เป็นองค์พระพุทธไสยาสน์ ประดิษฐานอยู่บนยอดเขาอาสนะพุทธะ ซึ่งเป็นลานหินแข็งแกร่ง ยาวประมาณ 110 เมตร ใช้งบประมาณสร้างพระพุทธไสยาสน์ราว 50 ล้านบาท และสร้างพระวิหารครอบองค์พระพุทธไสยาสน์ไว้อีกชั้นหนึ่ง มีขนาดกว้าง 39 เมตร ยาว 49 เมตร พร้อมศาลาราย 6 หลัง และที่พักชั้นใต้ดินรอบลานเขา เป็นสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์แห่งสมัยรัตนโกสินทร์ งบประมาณก่อสร้างพระวิหารและอาคารรอบลานเขาราว 270 ล้านบาท
พิธีวางศิลาฤกษ์ ได้มีขึ้นในวันศุกร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2549 เวลา 9.19 น. อันเป็นมหาราชาฤกษ์ โดยมีพระเดชพระคุณสมเด็จพระวันรัต เป็นประธานสงฆ์ทำพิธีวางศิลาฤกษ์ มีพระเถรานุเถระ ข้าราชการ และพุทธศาสนิกชน มาร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก
ในวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2549 คณะกรรมการฯได้เดินทางไปตรวจรับหินอ่อนขาว ที่เมืองคาร์ราร่า ประเทศอิตาลี และได้พบหินอ่อนก้อนใหญ่พิเศษ น้ำหนัก 55 ตัน โดยบุญปาฏิหาริย์ ทำให้สามารถแกะสลักเป็นส่วนพระเศียรได้โดยไม่ต้องมีรอยต่อหินข้างพระพักตร์ การก่อสร้างโครงสร้างฐานพระพุทธไสยาสน์เริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2549 และได้ทะยอยนำเข้าหินอ่อนพระพุทธสรีระมาถึงท่าเรือแหลมฉบัง ตั้งแต่เดือนสิงหาคม-ตุลาคม 2549
หินอ่อนพระพุทธไสยาสน์ 9 ก้อนแรกได้มาถึงอุดรธานีเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2549 ทางจังหวัดอุดรธานีได้จัดขบวนแห่อัญเชิญ และทำพิธีสมโภชหินอ่อนพระพุทธไสยาสน์ ณ มณฑลพิธีทุ่งศรีเมือง โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีเป็นประธานในพิธี และอัญเชิญเข้าสู่ลานเขาอาสนะพุทธะ วัดป่าภูก้อนในวันที่ 27 สิงหาคม 2549 พิธีแกะสลักหินอ่อนพระพุทธไสยาสน์เป็นปฐมฤกษ์ ได้มีขึ้นเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2549 โดยมีพระเดชพระคุณพระธรรมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก เป็นประธานสงฆ์ในพิธี และได้มีพิธีแกะสลักหินอ่อนก้อนพระเศียรเป็นปฐมฤกษ์ เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2549 โดยท่านพระครูจิตตภาวนาญาณ เจ้าอาวาสวัดป่าภูก้อน
การแกะสลักหินอ่อนองค์พระพุทธไสยาสน์ ได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนกันยายน 2549 เป็นต้นมา และได้อัญเชิญขึ้นเรียงบนฐานสูง 2 เมตร จนครบทั้ง 43 ก้อนแล้ว โดยประกอบพิธีอัญเชิญหินอ่อนก้อนพระเศียรขึ้นประดิษฐานเป็นองค์พระพุทธไสยาสน์สมบูรณ์ เมื่อวันศุกร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2551 โดยมีพระเดชพระคุณสมเด็จพระวันรัต วัดบวรนิเวศวิหารเป็นประธานสงฆ์ พระพุทธไสยาสน์ได้แกะสลักเสร็จสมบูรณ์ในปลายปี 2551 ได้ตกแต่งฐานองค์พระจนงดงามสมบูรณ์ในเวลาต่อมา
คณะกรรมการบริหารโครงการฯ ได้ดำเนินการก่อสร้างอาคารรอบลานพระวิหารไปพร้อมกันกับการสร้างพระพุทธไสยาสน์ การก่อสร้างพระวิหารเริ่มขึ้นหลังมีพิธีตอกไม้มงคลยกเสาเอกในวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 รอบพระวิหารจะเป็นลานชมภูมิทัศนียภาพ มีศาลารายรอบพระวิหารอีก 6 หลัง เป็นที่บูชาองค์พระจำลอง แสดงนิทรรศการ รับรองพระเถระ และจำหน่ายของที่ระลึก ชั้นใต้ดินเป็นห้องพักสำหรับพระภิกษุสงฆ์ อุบาสก อุบาสิกา ผู้มาปฏิบัติธรรม รวม 14 ห้องใหญ่ ซึ่งการก่อสร้างจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2555 นี้
เมื่อวันวิสาขบูชาที่ 8 พฤษภาคม 2552 ได้รับพระกรุณาจาก พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานประกอบพิธีเททองหล่อพระรัศมีพระพุทธไสยาสน์ ณ วัดป่าภูก้อน
วัดป่าภูก้อนและคณะกรรมการได้ขอนำความกราบบังคมทูลพระกรุณา ขอพระราชทานนามพระพุทธไสยาสน์หินอ่อนขาวจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อว่า
"พระพุทธไสยาสน์โลกนาถศาสดามหามุนี" แปลว่า พระพุทธรูปปางไสยาสน์แห่งพระมหามุนีผู้ทรงเป็นบรมครู"
ที่ทรงเป็นที่พึ่งของชาวโลก ตั้งแต่วันที่ 12 กันยายน 2552 และได้รับพระกรุณาจาก พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงรับเป็นองค์ประธานอุปถัมภ์ของโครงการฯ
พิธีมหาพุทธาภิเษกได้จัดขึ้น ณ พระวิหารพระพุทธไสยาสน์โลกนาถศาสดามหามุนี ในวันที่ 3 กรกฎาคม 2553 ที่ผ่านมา โดยได้รับพระเมตตาจาก ท่านเจ้าประคุณ สมเด็จพระวันรัต วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นประธานจุดเทียนชัย และพระเดชพระคุณ พระธรรมบัณฑิต วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก เป็นประธานดับเทียนชัย
ระเบียบการขออนุญาตถ่ายภาพนิ่ง - ภาพเคลื่อนไหว / ถ่ายสารคดี บริเวณวิหารสังฆบิดร วัดป่าภูก้อน อ่านเพิ่มเติม..